ThaiHumanCap. com is the public website for sharing your knowledge, exploring your experience in HRM, HRD and OD
http://thaihumancap.igetweb.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

 หน้าแรก

 บทความ

 เว็บบอร์ด

 ข่าวสาร/ประชาสัมพันธ

สถิติ

เปิดเว็บ24/08/2008
อัพเดท24/11/2016
ผู้เข้าชม32,465
เปิดเพจ38,264

บริการ

หน้าแรก
บทความ
เว็บบอร์ด
ข่าวาร/ประชาสัมพันธ์

เล่าสู่กันฟัง

แนะนำหนังสือดี

อาหาร/สุขภาพ

Management Tools

HRM & HRD

iGetWeb.com
AdsOne.com

ไล่ ตง จิ้น....ลูกขอทาน

ไล่ ตง จิ้น....ลูกขอทาน

             เมื่อหลายวันก่อน ผมได้ไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และได้ยกหนังสือเรื่องนี้ขึ้นมาเล่าให้ นศ.ฟัง ปรากฏว่า นศ.หลายคน ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาหลังจากเล่าจบ ไม่ได้หมายความว่าผม สามารถเล่าเรื่องให้คนร้องไห้ได้ แต่ชีวิตที่่่ผ่านมา ของคนที่ชื่อ ไล่ ตง จิ้น น่าจะเป็นชีวิตที่ น้อยคนนักจะเคยพานพบ
 
             ไล่ตงจิ้น เป็นลูกขอทานชาวไต้หวัน มีพี่น้องทั้งหมด 12 คน ไล่ตงจิ้นเป็นลูกคนที่สอง พ่อของไล่ตงจิ้น เป็นขอทานตาบอด แม่ของไล่ตงจิ้น เป็นคนปัญญาอ่อน พวกเขา ยังชีพด้วยการเดินไปขอทานตามหมู่บ้านต่างๆ เวลากลางคืนก็อาศัยนอน ตามสุสานบ้าง เล้าหมูบ้าง ตลอดชิีวิตนับสิบปี ที่ไล่ ตง จิ้น และครอบครัว ตระเวนขอทานไปทั่ว บางวันขอทานไม่ได้ ถึงขนาดที่ต้องแย่งข้าวสุนัข มาแบ่งกันกินภายในบ้าน ไม่ต้องคำนึงถึงความสะอาด ไม่ต้องพูดถึงโภชนาการ ไม่ต้องไปสนว่าอาหารที่ได้จะบูดหรือไม่ ขอแค่ได้มีอะไรตกถึงท้อง แค่่นั้นจริงๆ

             ไล่ ตง จิ้น ต้องเดินขอทาน เป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 10 กิโลเมตร ในแต่ละวัน และย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ วันไหนโชคดี หมู่บ้านตำบลข้างๆมีงานวัด ไล่ตงจิ้นจะรีบตื่นแต่เช้า เพื่อไปขอทานที่โรงทานที่วัด และนั่นนับได้ว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุด เท่าที่เค้าเคยได้รับตลอดชีวิตนับตั้งแต่เกิดมา มีอยู่วันหนึ่ง ไล่ตงจิ้นกับพี่สาว ไปขอทานที่งานวัด พลันสายตาของไล่ตงจิ้นก็เหลือบไปเห็นเด็กคนหนึ่ง ยืนแทะแตงโมอย่างเอร็ดอร่อย แตงโมสีแดงสด น้ำหวานที่ไหลออกจากมุมปากทุกครั้งที่กดคมฟันลงไป ทำให้ไล่ ตง จิ้นกลืนน้ำลายด้วยความเสียดาย เค้าลอบมองเด็กคนนั้นจนกระทั่งเค้าทิ้งเปลิกแตงโมที่แทะเสร็จแล้ว และเดินจากไปพร้อมแม่ แทบไม่ต้องรอ ไล่ตงจิ้นลุกขึ้นเดินไป แต่เค้าพบว่าไม่ได้มีแต่เพียงเค้าเท่านั้นที่แอบมองเด็กคนนี้กินแตงโม แต่พี่สาวของไล่ ตง จิ้น ก็มองอยู่เช่นกัน สองพี่น้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยืนอยู่ข้างหน้าเปลิอกแตงโม แล้วค่อยๆ เตะเปลือกแตงโมชิ้นนั้นเข้าไปใต้เวที สองพี่น้องมุดตามเข้าไปข้างในและลัดกันแทะเปลือกแตงโมชิ้นนั้นด้วยความเอร็ดอร่อย 

               และแล้ว จุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาก็มาถึง เมื่อไล่ ตง จิ้น อายุได้้ 10 ขวบ เขาจูงพ่อตาบอดไปขอทานที่บ้านหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านถามพ่อเขาว่า ลูกอายุเท่าไหร่แล้ว ได้เรียนหนังสือไหม อยากให้ลูกต้องเป็นขอทานเหมือนตัวเองหรือ แล้วก็ให้เงินมาจำนวนหนึ่งเพื่อให้พ่อ พาไล่ ตง จิ้น ไปเข้าโรงเรียน จากนั้นเป็นต้นมา เขาไม่ต้องร่อนเร่ขอทานอีกต่อไป แต่ก็ยังต้องขอทานประกอบการเรียนหนังสือไปด้วย วันไหนที่ต้องไปขอทานริมถนนตอนกลางคืน เขาจะเอาหนังสือไปอ่านด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เด็กป.5 จะได้ประกวดเขียนพู่กัน ไล่ตงจิ้น ไม่มีเงินที่จะซื้อพู่กันมาฝึกเขียน ทุกๆวันเขาจะฝึกเขียนโดยใช้ผืนดินเป็นกระดาษ และใช้แท่งไม้แทนพู่กัน ฝึกอยู่วันแล้ววันเล่า จะกระทั่งเมื่อถึงเวลาประกวด ไล่ตงจิ้นสามารถคว้าที่ 1 มาครองได้ 

                และด้วยความลำบากตลอดชีวิตที่ผ่านมา ทำให้ไล่ ตง จิ้น เป็นเด็กที่มุ่งมั่นในทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องกีฬา เขาจะต้องเป็นเบอร์หนึ่งของโรงเรียนเสมอ วันหนึ่งเมื่อเขากลับไปถึงบ้าน พบว่าพี่สาวไม่อยู่บ้าน เขาทราบความจริงจากพ่อว่า พ่อขายพี่สาวให้กับซ่องแห่งหนุ่ง เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในคอบครัว ไล่ ตง จิ้น ร้องไห้ น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เขารักพี่สาวของเขามาก มากเสียยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง แต่พี่สาวเขา ก็รักเขามากกว่าชีวิตของเธอเองเช่นกัน จึงยอมเดินลงนรก เพื่อให้ครอบครัวมีกินและน้องชายได้เรียนหนังสือ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ไล่ ตง จิ้น ได้เพิ่มความพยายามมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เมื่อเขาเข้าเรียนในวิทยาลัยเทคนิคประจำจังหวัด เขาได้ช่วยงานที่ บริษัทฯป้องกันอัคคีภัย ของอาจารย์ เค้าเริ่มทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จากพ้องแถวคูหาเดียว พนักงาน3 คน จนบริษัทฯก้าวหน้าเรื่อยๆ และไล่ตงจิ้นก็มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพเป็นลำดับ ปัจจุบัน ไล่ ตง จิ้น เป็นผู้จัดการโรงงาน ของบริษัทฯแห่งนี้ เค้ามีครอบครัวที่น่ารัก มีลูก และที่สำคัญ เค้าไม่ลืมที่จะพาพ่อ (พึ่งเสียชีวิตไปไม่กี่ปีหลังจากเขาแต่งงาน) แม่ และพี่น้องทุกคนของเขามาอยู่ด้วย แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ 

               เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ไล่ ตง จิ้น ได้รับเลือกให้เป็นบุคคลดีเด่นแห่งปีของไต้หวัน และ้ได้รับรางวัลจากประธานธิบดี หู จิ่น เทา ทุกวันนี้ ไล่ ตง จิ้น ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ชีิวิตของตนเองผ่านตัวหนังสือ และถึงแม้เขาจะมีบ้านที่มั่นคงแข็งแรง มีอาหารกินอิ่มทุกมื้อ มีครอบครัวที่อบอุ่น แต่เค้าก็ไม่เคยอาย ที่จะบอกใครต่อใครว่า เขาคือ "ไล่ ตง จิ้น...ลูกขอทาน"

ความคิดเห็น

  1. 1
    พัช
    พัช peeleejao@yahoo.com 12/09/2008 19:56
    อ่านแล้วประทับใจมากค่ะ

    ขอบคุณนะคะที่แบ่งปันเรื่องดี ๆ ให้กันฟังค่ะ
  2. 2
    ตาล
    ตาล 28/02/2009 21:07
    ชอบไล่ตงจิ้นมากที่สุดเรยค่ะ อยากไห้คนไทยเราเปนแบบไล่ตงจิ้นจัง ถึงแม้เค้าจะยากจน ลำบากแค่ไหนแก้อไม่เคยคิดท้อถอยต่ออุปสรรค ทั้งหลาย
  3. 3
    กำลังหาประสบการณ์
    กำลังหาประสบการณ์ gto@hotmail.com 07/03/2009 19:04
    ลองไปอ่านกันนะครับคนใดก็ตามที่ชีวิตกำลังสิ้นหวัง ท้อแท้ หรือกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตายจากสาเหตุใดๆก็ตามที่คุณคิดว่าโลกนี้ทารุณกับคุณ รอบรองว่าคุณจะต้องคิดเสียใหม่ นี่ไม่ใช่นิยาย แต่นี่....... คือชีวิตจริง ฟังแล้วถ้าใครคิดว่าผมน้ำเน่า แสดงว่าคุณเห็นคุนค่าของชีวิต ตัวเอง หรือ ใครในสังคมน้อยไป หรือไม่ก็เป็นคนใจคับแคบแน่นอน เชื่อเถอะครับคนที่ทุกข์กว่าเรามีมากเหลือเกิน
  4. 4
    netvinta
    netvinta toodtu.24@hotmail.com 19/05/2009 11:06
    อ่านไล่ตงจิ้นแล้วค่ะ แต่อยากได้หนังสืออ่านแนวๆนี้อีกช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
  5. 5
    มะนาว
    มะนาว now_mon603@hotmail.com 27/05/2009 17:05
    {icon1} {icon4} {b}ชอบมาเลยค่ะ{/b} {color=pink}อ่านแล้วรู้ศึกประทับใจมากค่ะ {/color}
  6. 6
    มาย
    มาย minelove123_@hotmail.com 01/01/2012 19:29
    อ่านเเร้วรู้สึกว่า ตังเองยัง  ทามไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเขา  ประทับใจมากๆๆเลยคาาา
  7. 7
    03/01/2012 16:12
    คุณ netvita

    ลองหาหนังสือเรื่อง How starbuck saved my life มาอ่านดูนะครับ

แสดงความคิดเห็น

* *

 

*

view

 หน้าแรก

 บทความ

 เว็บบอร์ด

 รวมรูปภาพ

view