วันนี้ มาว่ากันด้วยเรื่องของการเรียนรู้ตอนที่ 1
ก่อนอื่น เราต้องแยกให้ออกระหว่าง "การเรียนรู้" กับ "การรับรู้" เปรียบเสมือนที่องค์พระสัมนาสัมพุธเจ้าเคยตรัสความต่างระหว่าง "การฟัง" กับ "การได้ยิน"เอาไว้แต่โบราณกาล
ทุกวันนี้ การศึกษาไม่ว่าจะมหภาค คือในรูปแบบของการศึกษาในระบบประถม มัธยม อุดมศึกษา หรือแม้แต่จุลภาค คือในระดับองค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ ส่วนใหญ่เราจะเข้าใจผิดว่า การรับรู้ นั่นคือการเรียนรู้ การนั่งจด lecture ตั้งแต่สมัยประถม ยันการทำข้อสอบในระดับอุดมศึกษา ล้วนแล้วแต่ขีดกรอบให้คิด และตอบอยู่เฉพาะภายในตำราเท่านั้น การตอบที่แตกต่างจากการสอนของครู และแตกต่างจากที่ตำราว่าไว้ นั้นคือความผิด โดยที่เราไม่ได้เฉลี่ยวใจเลยว่า สิ่งที่เค้าคิดต่างจากเรา อาจไม่ได้หมายความว่าเค้าผิดก็ได้ เพียงแต่ว่า เราอาจจะมองคนละมุม หรือที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ สิ่งที่เค้าคิดนั้น คือสิ่งที่เราคิดไม่ถึงหรือไม่เคยคิดมาก่อน
ย้อนกลับเข้ามาในองค์กร ทุกวันนี้หลายๆองค์กรได้ทุ่มเททั้งเวลา ทุ่มเททั้งทุนทรัพย์ ในความพยายามที่จะสร้างสิ่งที่ผมอยากจะเรียกว่า "องค์กรอุดมปัญญา" (Knowledge based Organization) หรือจะเรียกกันไปว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้มั่ง การจัดการองค์ความรู้ในองค์กรมั่ง ก็ว่ากันไป แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีองค์กรไหน สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ของการเรียนรู้ เพราะอะไร? เพราะเราถูกปลูกฝังจิตสำนึก ปลูกฝังความเข้าใจผิดๆ ว่าการรับรู้ คือการเรียนรู้ คนที่จำได้เก่ง คือคนเก่ง อย่าลืมนะครับว่า สิ่งต่างๆที่มีอยู่ในตำรา มันคือ "สิ่งที่เคยมีคนทำมาแล้ว" เพราะฉะนั้น ถ้าเรามุ่งมั่นที่จะจดจำ ทำให้ได้แบบในตำรา ก็เท่ากับว่า เราได้ทำในสิ่งที่คนอื่นเคยทำมาแล้ว เป็นแค่ ความรู้มือสอง (Second hand knowledge) เท่านั้นครับ เราจะไม่สามารถสร้างหรือพัฒนาความรู้มือหนึ่งขึ้นมาได้เลย ตราบใดที่เรายึงติดอยู่กับ "กรอบแห่งการท่องจำหรือฟังแล้วไม่ได้ต่อยอด"
ในการสร้างการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในองค์กรได้นั้น สิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการการเรียนรู้ได้แก่ การสร้างวัฒนธรรมและความรีบร้อนแห่งการเรียนรู้ ฟังดูอาจะเป็นเรื่องที่เป็นนามธรรมมากๆ สามารถจับต้องได้ยาก เรา (HR) ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ จำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างบรรยากาศ และสนับสนุน ให้พนักงานรู้จักเรียนรู้วิธีการที่จะเรียนรู้ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันอย่างคุ้นหูว่า Learn how to Learn นั่นเอง
เท่าที่ผมได้ศึกษาจากหนังสือประเภท how to ต่างๆ หรือเหตุการณ์ประสบการณ์ที่พานพบที่เกี่ยวกับเรื่องของการเรียนรู้ ผมพบจุดร่วมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ การจะสร้างให้คนในองค์กร สนใจใฝ่ใคร่รู้นั้น สิ่งที่หลายๆองค์กรและหนังสือหลายๆเล่มได้ให้ความสำคัญนั้นคือการเปลี่ยน mind set หรือ พลิกกรอบแนวคิด/วิธีคิดของพนักงาน ให้รับรู้และเข้าใจว่า การเรียนรู้คืออะไร ฟังๆดูก็เหมือนว่าจะง่ายนะครับ ประมาณว่าใครๆก็รู้ ว่าการเรียนรู้คืออะไร แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไอ้สิ่งที่เค้าคิดว่าเป็นการเรียนรู้นั้น แท้ที่จริงมันกลายเป็นการรับรู้ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารับการฝึกอบรม การอ่านหนังสือ ฯลฯ แม้แต่พวกเราที่เป็น HR ก็ยังไม่วายที่จะเข้าใจว่า ไอ้สิ่งต่างๆเหล่านี้แหละ ที่เรียกว่าการเรียนรู้ หรือว่าไม่จริง?
ผมเองก็ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนั้น เพราะเราต่างถูกหล่อหลอมมาจากเบ้าหลอมเดียวกันที่เราเรียกกันว่า การศึกษา ไม่ว่าผู้ดีมีจน คนใหญ่คนโต ลูกชาวนา ตาสีตาสา ต่างถูกหลอมออกมาจากเบ้าเดียวกันหมด แต่จุดเปลี่ยนที่พลิกวิธีคิดของผม จากหน้ามือเป็นหลังมือ จากขาว เป็นดำ เกิดขึ้น 2 ครั้ง ติดๆกัน ครั้งที่ 1 อย่าหาว่าผมยกยอปอปั้นหรือโฆษณานายตัวเองเลยนะครับ นายผม เป็นผู้จุดประกายความคิดให้ผมเกิดคำถามเกี่ยวกับการเรียนรู้ขึ้นมาในใจ ด้วยคำถามที่ว่า “เอ็งคิดว่า คนเราถูกสร้างมาเพื่อให้เป็นอะไรบางอย่าง (Born to be) หรือว่าคนเราเลือกที่จะเป็นได้วะ เอาแบบ fact นะ ไม่ต้องเอาเท่ห์” ตามมาด้วยอีก 1 คำถาม หลังจากที่ผมตอบไปว่า “แล้วเอ็งเชื่อไหม ว่าคนทุกคน มีศักยภาพในการเรียนรู้สามารถพัฒนาได้” ผมก็ตอบไปจากประสบการณ์ที่ผ่านพบมาว่า “ไม่......” แล้วจุดเปลี่ยนจุดที่สอง ก็ตามมา แกยื่น VCD แผ่นหนึ่งให้ผม แล้วบอกว่า “เอ็งเอานี่ไปดูแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยมาคุยเรื่องนี้กัน” คืนวันนั้น ผมกลับเข้าห้อง แล้วเปิด VCD แผ่นนั้น แล้วกรอบความคิดทุกอย่าง ที่ผมมีต่อการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคน ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง VCD แผ่นนั้น เป็นรายการเวทีชาวบ้าน ตอนที่ชื่อว่า “ครูสมพร คนสอนลิง”
แล้วครูสมพรเป็นใคร? หลายๆคนคงจะสงสัย ผมเล่าให้ฟังสั้นๆว่า ครูสมพร เป็นครูใหญ่และครูคนเดียว ของวิทยาลัยฝึกลิงเพื่อการเกษตร อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฐ์ธานี หากใครยังพอจำได้ ว่าเมื่อหลายปีก่อน มีโฆษณาชุดหนึ่งที่มีเจ้าจ๋อ ซ้อนมอไซค์แล้วเอามือชี้ที่หัวว่า หมวกๆ หมวกมีไหนอ่ะหมวก (ซึ่งคนที่จำได้คงมีอายุพอสมควร แหะๆ มีแอบเช็คอายุนิดนึง) นั่นแหละครับผลงานของครูสมพร
ใน VCD ชุดนั้น บอกเล่าเรื่องราวของการเป็นครู เรื่องราวของการสอนให้ลิง รู้จักเรียนรู้ ไม่ใช่รู้จักแต่ทำ ตั้งแต่วันแรกที่ลิง ออกจากป่ามาสู่ โรงเรียน จนกระทั่งลิงสามารถทำอะไรๆ ได้เหมือนอย่างที่เราเห็น รายละเอียดไปหาดูกันเอาเองนะครับ (หรือหากหาไม่ได้เดี๋ยวหาวิธีส่ง CD ให้)
นอกเรื่องไปไกลกลับเข้ามาที่เรื่องของการเรียนรู้ในองค์กรกันต่อ ก็อย่างที่บอกไปนะครับ เราจะสร้างจิตสำนึกการเรียนรู้ให้แก่คนในองค์กรได้อย่างไร ก็ในเมื่อเราพลาดตั้งแต่การนิยามคำว่า “การเรียนรู้” มันก็กลายเป็นติดกระดุมเม็ดแรกผิด ทีนี้ไอ้ที่ตามมาทั้งหลายก็โย้ตามกันไปเป็นแถบ เพราะฉะนั้น จะสร้างการเรียนรู้ เราก็ต้อง เข้าใจคำว่า การเรียนรู้ ให้มันชัดแจ้งเสียก่อน วันนี้ขอลาจากก่อน ไว้วันหลังจะมาต่อเรื่องนี้อีกนะครับ รับรองว่ายาวยิ่งกว่า มหากาพย์มหาภารตะ ของอาจารย์วีระ เสียอีก (มีแอบๆ) ไว้คราวหน้าพบกันครับ ขอบคุณครับ
Boysicky
อยากดูวีซีดีด้วยค่ะ ส่งมาให้พี่พัชดูหน่อยได้ไหมค่ะ แล้วจะคืนให้
ที่อยู่
พัชมน ปัญโญสุข
บจก.โตโยต้า โบโชกุ เอเซีย
2/3 อาคารบางนาทาวเวอร์ ชั้น 3-4 หมู่14
ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
พี่มีหนังสือธรรมะ ถ้าสนใจส่งที่อยู่มาให้ก็ได้นะคะ
จะได้แลกกันอ่านค่ะ
ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะหาเวลาแวะไปส่งให้นะครับ
อยากดูวีซีดีด้วยครับ ส่งมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมคับ แล้วจะคืนให้
ที่อยู่
3/66 หมู่2
ต.บางมด อ.จอมทอง จ.กรุงเทพฯ 10150
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
0859126816
ถ้ายังมีโอกาสอยู่ ขอCD ได้มั้ยคะ
ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าค่ะ(ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ)
บุญทวี อลิปริยกูล
10/39 ม.3 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง 21000
น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษามากๆ
ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าครับ
พัฒนชัย สิงหะวาระ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
อาคารสยามทาวเวอร์ชั้น 26
989 ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กทม 10330
รู้สึกประทับใจและอยากแบ่งปันให้เพื่อนที่บริษัทฯ ได้ดูบ้าง แต่ไม่รู้ว่าสั่งซื้อได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ครับ รบกวนให้ข้อมูลผมด้วยครับ
ขอขอบคุณ
เล็ก
AIA Training Center ชั้น 6 175 ถ.สาทรใต้ ทุ่งมหาเมฆ สาทร กรุงเทพ 10120
วิศรุต หลักคงคา
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ