หน้าแรก
บทความ
เว็บบอร์ด
ข่าวสาร/ประชาสัมพันธ
สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกครั้งกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลง แต่คราวนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่ “ภาวะผู้นำ” ในการนำการเปลี่ยนแปลงหรือที่ฝรั่งมังค่าเรียกว่าTransformational Leadership เป็นไงครับ ฟังดุแล้วโก้เหมือนหนังหุ่นยนต์เรื่องTransformerเลยใช่ไหมครับ
วันนี้ผมจะมาเล่าถึงความเป็นมาและคุณสมบัติสำคัญของการเป็น Transformational Leadership
Transformational Leadership เป็นแนวคิดที่มีจุดเริ่มต้นมาจากฝั่งอเมริกา(อีกแล้วครับท่าน) โดยJames MacGregor Burns อดีตประธานสมาคมรัฐศาสตร์ชาวอเมริกันที่ได้ให้คำคมที่นักบริหารหลายคนจำฝังใจไว้ว่า“การแสดงออกซึ่งภาวะผู้นำ เป็นคนละเรื่องกับการใช้อำนาจ”
ซึ่งก็ตีความเอาได้ง่ายๆว่า “ผู้นำ” คือคนละคนกับ“ผู้บังคับบัญชา” นั่นเอง
เคยหรือไม่ที่ท่านตกอยู่ในสถานการณ์ที่คนๆหนึ่ง สามารถสร้างแรงจูงใจ (Motivation) แรงบันดาลใจ (Inspiration) กระตุ้นหรือ
ปลุกเร้าพลังของคนในทีม (Recharged and Energized) เราอาจเรียกคนๆนั้นได้ว่านั่นคือTransformational Leadership, Burns บอกว่า Transformational Leadership นั้นคือผู้ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ตามยอมรับและปรับเปลี่ยนตามความคาดหวังและทำงาน
ร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
ดังนั้นตามนิยามความหมายของฝรั่งมังค่า Transformational Leadership ก็คือ ความสามารถหรือคุณลักษณะของบุคคลคนหนึ่ง
ที่สามารถสร้างความฮึกเหิม (Energetic) สร้างความกระตือรือร้น (Enthusiastic) และสร้างความทะเยอทะยาน (Passionate)
ให้กับผู้ตาม ดังนั้นผู้นำตามความหมายนี้จึงไม่ใช้แค่การเข้าไปมีส่วนร่วมในระหว่างการเปลี่ยนแปลงแต่ยังหมายถึงการพยายามแสวงหาวิธีการ
ในการให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้อื่นหรือสมาชิกในทีมให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายร่วมกันได้ ต่อมา Bernard M.Bass
ได้ทำการวิจัยศึกษาต่อยอดไอเดียของBurns และได้กำหนดคุณลักษณะของ Transformational Leadership ที่เราได้รู้จักกันในปัจจุบันเอาไว้ 4 อย่างด้วยกันได้แก่
1. Intellectual Stimulation ผมจะแปลว่าการกระตุ้นปัญญา มันก็จะดูแปลกๆเอาเป็นว่ามันก็คือการกระตุ้นให้เกิดการคิด นั่นเอง
โดยผู้นำที่มีคุณลักษณะนี้จะ “ไม่พอใจ” กับกระบวนการหรือวิธีการที่ทำอยู่จะทำการกระตุ้นให้ผู้ตามเกิดการคิด ริเริ่ม หาวิธีการทำงาน
แนวทางใหม่ๆในการทำงานหรือแก้ไขปัญหา ผู้นำจะเปิดโอกาสให้ผู้ตามได้มีโอกาสในการแสดงความคิดเห็น นำเสนอวิธีการต่างๆ
โดยไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือตัดทอน “โอกาสในการแสดงฝีมือ” หรือภาษาบ้านๆก็คือ “สกัดดาวรุ่ง” กลับกันผู้นำจะพยายามให้ความช่วยเหลือ
ให้การสนับสนุน และส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และแสวงหาทางแก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงงานได้ด้วยตนเอง
เป็นไงบ้างครับลองหลับตาแล้วนึกดูซิว่า ตลอดชีวิตการทำงานของท่านที่ผ่านมา ท่านเคยเจอ “นาย” แบบนี้หรือไม่
ถ้าคำตอบ คือ “ไม่” ลองตามติดมาดูคุณลักษณะแบบที่ 2 กัน เผื่อว่าท่านอาจจะโชคดีเคยผ่านนายแบบนี้มาแล้วก็ได้
2. Individualized Consideration การให้ความสำคัญหรือตระหนักถึงปัจเจกบุคคล เค้าว่าผู้นำที่มีคุณลักษณะนี้จะเข้าใจ “ความแตกต่าง”
“ความต้องการ” ของผู้ตามหรือสมาชิกในทีมเป็นอย่างดี เค้าจะมีวิธีการในการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน รวมไปถึงการให้กำลังใจ
แก่สมาชิกภายในทีมแตกต่างกัน ให้ความสำคัญกับสายสัมพันธ์ของพนักงาน “เป็นรายบุคคล” มีวิธีการในการจัดการผู้ตามที่ไม่เหมือนกัน
เช่น การมอบหมายอำนาจ, การให้กำลังใจและให้ความห่วงใยที่ไม่เท่ากัน (อย่าพึ่งคิดว่าเป็นการลำเอียงนะครับเพราะบางคนก็ต้องการความ
ช่วยเหลือตลอดเวลาในขณะที่บางคนไม่ชอบให้นายจู้จี้จุกจิก) นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ตามได้พูดคุยแบบเปิดอกอีกด้วย
(Open Communication) หลายๆท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจอุทานออกมาว่า โอ้!! ช่างเป็นนายในฝันเสียนี่กระไร
3. Inspirational Motivation กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ ผู้นำจะสามารถชี้ให้ผู้ตามมองเห็นหรือจินตนาการถึงภาพความสำเร็จ
อันยิ่งใหญ่ (Imagination) ที่มาจากความสำเร็จได้ โดยอาศัยแรงจูงใจจากภายในของตัวผู้ตามเอง (ในบ้านเมืองเราหากจะให้มองเห็นภาพ
ก็คงต้องยกตัวอย่างของพวกบริษัทขายตรงทั้งหลายแหล่ที่สามารถกระตุ้นแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกได้อย่างไม่น่าเชื่อ) โดยการสื่อวิสัยทัศน์ที่
ชัดเจนและแสดงออกซึ่งความทุ่มเท เสียสละที่เขามีต่อภาระกิจร่วม (Share Mission) ของหน่วยงานหรือองค์กรก็แล้วแต่
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ตามและนำมาซึ่งความพยายามมีส่วนร่วม (Contribution) ของผู้ตามเพื่อเติมเต็มความสำเร็จร่วมกัน
ท่านไหนเจอนายแบบนี้ตัวก็คงแทบลอย ทุ่มเททั้งกายทั้งใจ (หมายถึงงานนะครับ) ให้อย่างไร้ข้อกังขา จริงไหมครับ
4. Idealized Influence แปลตรงตัวก็คือการสร้างอิทธิพลอย่างสร้างสรรค์ แต่ผมอยากเรียกว่าการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีมากกว่า
โดยผู้นำจะแสดงออกซึ่งความเป็นผู้มีวุฒิภาวะ ควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์ต่างๆได้ดี มุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อความสำเร็จของงาน
สามารถไว้วางใจและเป็นที่พึ่งของผู้ตามได้เสมอ ผู้นำแบบนี้จะได้รับความเชื่อมั่น “Trust” และกลายเป็นแบบอย่างให้ผู้ตาม (Role Model)
ทั้งเรื่องของ Characteristic, Ideas และ Attitude ส่งผลให้กลายเป็น DNA ของทีมในที่สุด (อันนี้ผมเติมเองนะครับ)
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับคุณลักษณะของผู้นำการเปลี่ยนแปลงหรือ Transformational Leadership ตามสไตล์ฝรั่ง
บางท่านอาจจะโชคดีได้เจอนายครบทั้ง 4 อย่าง โชคดีน้อยลงมาหน่อยก็เจอไป 2-3 แต่บางท่านอาจโชคร้ายสักหน่อย
ที่ไม่ว่าจะหลับตานึกภาพยังไงก็ยังคงนึกไม่ออกประมาณว่า “ไม่เห็นมีในนายเราเลย (วะ)”
อาทิตย์หน้า ผมจะพยายามหากรณีตัวอย่างของผู้นำการเปลี่ยนแปลงและเอามาแจงให้พวกท่านอ่านไว้ประดับความรู้
เผื่อว่าวันหนึ่งได้มีโอกาสเป็นนายคนกับเค้าบ้าง จะได้เป็นนายที่ลูกน้องนึกถึง (ในด้านดี) บ้าง
วันนี้ลาไปก่อน เจอกันตอนหน้าครับ สวัสดีครับ
รวมรูปภาพ
ความคิดเห็น